อาร์เซนอล และ มิเกล อาร์เตต้า เจอกับปัญหาที่พวกเขาไม่คาดคิดเมื่อ กาเบรียล เชซุส กองหน้าคนสำคัญที่เพิ่งย้ายมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่แข่งในศึก พรีเมียร์ลีก ได้รับบาดเจ็บจากการลงเล่นให้กับ ทีมชาติบราซิล ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 นัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มเมื่อสัปดาห์ก่อน

รายงานข่าวยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าดาวยิงวัย 25 ปีจะต้องพักยาวขนาดไหน แต่คาดกันว่าจะอยู่ที่ระยะ 3 สัปดาห์จนอาจจะลากยาวไปถึง 3 เดือน ซึ่งแน่นอนว่ามันจะส่งผลกับการลุ้นแชมป์ของ เดอะกันเนอร์ส อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แม้ว่า เชซุส จะเท้าบอดในช่วงหลัง โดยยิงประตูใครไม่ได้เลยในทุกรายการวมกัน 11 นัดก่อนจะไปเล่น ฟุตบอลโลก แต่ก็ต้องยอมรับว่า อาร์เตต้า คงไม่อยากจะเสียสตาร์ชั้นนำรายนี้ไปแบบยาว ๆ อย่างแน่นอน

ระยะเวลาที่ อาร์เซนอล จะไม่มีแข้งบราซิลเลียนประจำการในแดนหน้านั้นถือเป็นหนึ่งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของพวกเขาก็ว่าได้ เพราะกุนซือชาวสแปนิชจะต้องเจอกับพวกท็อปทีมอย่าง ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดังนั้นการขาดผู้เล่นคนสำคัญจึงถือเป็นหายนะสำหรับพวกเขา

อย่างไรก็ตามมีข่าวออกมาว่าทั้ง เอดู และ อาร์เตต้า กำลังพยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการมองหาผู้เล่นแนวรุกคนใหม่ในเดือนมกราคม ซึ่งมีรายชื่อของ มิคไฮลอ มูดริค ปีกของทีม ชัคต้าร์ โดเน็ตส์ เป็นเป้าหมายหลักที่มีข่าวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์

อันที่จริงแล้วทั้งคู่มองแข้งยูเครเนียนเป็นการเสริมทัพในระยะยาวมากกว่า เพราะเมื่อหันไปมองนักเตะที่มีอยู่ในทีมก่อนที่ เชซุส จะได้รับบาดเจ็บก็ถือว่าน่าจะเพียงพอลุ้นท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้ได้

หากแต่เมื่อสตาร์แซมบ้าเกิดได้รับบาดเจ็บหนัก แผนงานจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลง จากการมอง มูดริค เป็นอนาคต ตอนนี้อาจจะต้องปักหมุดเอาไว้ให้เป็นการซื้อตัวเร่งด่วนในปีใหม่นี้

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากการเสริมทัพเมื่อช่วงซัมเมอร์ วัตถุประสงค์ที่ อาร์เตต้า ดึง เชซุส และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ มาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือเขาต้องการนักเตะที่ไม่ต้องเสียเวลาปรับตัว ใช้งานได้เลย และสร้างอิมแพ็คให้กับทีมได้ทันที

อดีตกองหน้า แมนฯ ซิตี้ คือคนที่เข้ามาเติมศักยภาพในแนวรุกที่มี บูคาโย ซาก้า, กาเบรียล มาร์ติเนลลี และ เอมิล สมิธ โรว์ ประจำการอยู่แล้ว สไตล์การเล่นของเขาทำให้ 2 รายแรกกลายเป็นผู้เล่นที่โดดเด่น ในขณะที่รายหลังอาจจะโชคร้ายที่มีอาการบาดเจ็บ แต่ก็ยังถือเป็นตัวความหวังของ อาร์เซนอล เช่นกัน

คำถามที่ตามมาคือ มูดริค จะสร้างความแตกต่างและการเปลี่ยนแปลงให้กับแนวรุก ปืนโต ได้โดยทันทีหรือไม่?

เมื่อมีคำถามแบบนี้เกิดขึ้น เอดู และ อาร์เตต้า ก็อาจจะต้องหันกลับมามองตัวเลือกที่สามารถตอบโจทย์ได้ดีกว่าแข้งยูเครน คนที่มีฝีเท้า มีประสบการณ์ ไม่ต้องเสียเวลาปรับตัว สร้างอิมแพ็คได้ทันที และพิสูจน์ตัวเองมาแล้วใน พรีเมียร์ลีก

ซึ่งคนนั้นคือ วิลฟรีด ซาฮา ปีกจอมเทคนิคของ คริสตัล พาเลซ

แข้งวัย 30 ปีเคยตกเป็นเป้าหมายอย่างจริงจังของ อาร์เซนอล มาแล้วเมื่อปี 2019 และหลังจากนั้นเขาก็ยังคงมีชื่อวนเวียนอยู่กับทีมใหญ่อีกหลาย ๆ ทีม หลังจากที่เจ้าตัวออกมาเผยความในใจว่าอยากมีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์ใน ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก กับเค้าบ้าง

ในเวลานั้น เดอะกันเนอร์ส คือตัวเต็งที่จะคว้าดาวยิง พาเลซ แต่สุดท้ายพวกเขากลับไปทุ่มเงินกว่า 70 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัว นิโกลาส์ เปเป้ ซึ่งเราทราบดีว่ามันคือความล้มเหลวในเวลาต่อมา

ซาฮา ในเวลานี้มีทุกอย่างพร้อมสรรพสำหรับ อาร์เซนอล ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ ลูกล่อลูกชน และสามารถหุบเข้ามายืนเป็นกองหน้าตัวเป้าได้ในช่วงหลัง ซึ่งทำให้เขามีความหลากหลายในการเล่นมากขึ้น

นอกจากจะได้ความนิ่งและความเก๋าเข้ามาเติมเต็มให้กับทีมแล้ว อดีตแข้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังสามารถเป็นต้นแบบให้กับบรรดาดาวรุ่งในทีมทั้ง ซาก้า, มาร์ติเนลลี, สมิธโรว์ และ เอ็นเคเทียห์ ซึ่งนักเตะเหล่านี้อยู่ในวัยที่ต้องการสร้างกระดูกในเชิงบอลอยู่พอดี

สัญญาปัจจุบันของ ซาฮา จะหมดลงในเดือนมิถุนายนนี้ และเชื่อว่า พาเลซ ก็พร้อมที่จะขายในราคาย่อมเยาเมื่อตลาดหน้าหนาวเปิดทำการ ดีกว่าปล่อยให้ย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัว ซึ่งนี่เป็นเงื่อนไขที่สุดเพอร์เฟ็คสำหรับ อาร์เซนอล หากพวกเขาต้องการใครซักคนที่จะเข้ามาทดแทนการขาดหายไปของ กาเบรียล เชซุส จริง ๆ

และสิ่งที่ อาร์เตต้า ต้องไม่ลืมคือตอนนี้พวกเขาไม่ใช่เพียงแค่ทีมที่ลุ้นอันดับ 4 เท่านั้น แต่กำลังอยู่ในสถานะของทีมลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อย่างจริงจังจากผลงานในช่วงครึ่งซีซันแรก ดังนั้นการเสริมทัพในช่วงเดือนมกราคมจึงถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญต่ออนาคตของทีมอย่างมาก

หาก อาร์เซนอล ต้องการสร้างความสำเร็จเป็นรูปธรรมและกลับมายึดพื้นที่ “บิ๊กโฟร์” อีกครั้ง วิลฟรีด ซาฮา น่าจะเป็นคำตอบที่ลงตัวที่สุดในช่วงเวลานี้