เนเธอร์แลนด์ พบ อาร์เจนติน่า
เนเธอร์แลนด์ จบรอบแบ่งกลุ่มมาในฐานะแชมป์กลุ่ม A ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ยิง 5 เสีย 1 และผ่านสหรัฐอเมริกามาในรอบ 16 ทีมด้วยผลการแข่งขัน 3-1 นับได้ว่าจากรอบแบ่งกลุ่ม เนเธอร์แลนด์ ยิงไปแล้ว 8 ประตู เสียเพียงแค่ 1 และยังไม่แพ้ใคร ด้วยปรัชญาการคุมทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ที่เน้นผล และผู้เล่นในทีมมีความเข้าใจในสไตล์การเล่นของทีมอย่างชัดเจนทำให้นักวิเคราะห์หลายๆ คนมองว่าเนเธอร์แลนด์อาจมีโอกาสไปได้ถึงรอบชิงชนะเลิศเลยด้วยซ้ำ หลุยส์ ฟาน กัล จัดทีมลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ หนนี้ด้วยระบบแผนการเล่น 3-4-1-2 ผู้รักษาประตู : อันเดรียส น็อพเพิร์ต กองหลัง : มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ เนธาน อาเก วิงแบ็ค : เดนเซล ดุมฟรีส์ และ ดาลีย์ บลินด์ กองกลาง : มาร์เทน เดอ รูน, แฟรงค์กี เดอ ยอง และ ดาวี คลาสเซ่น กองหน้า : โคดี กักโป และ เมมฟิส เดปาย
อาร์เจนตินา ช็อกโลกด้วยการเปิดสนามแพ้ให้กับซาอุดิอาระเบียไปสกอร์ 1-2 ถึงแม้นัดนี้ ลิโอเนล เมสซี จะยิงจุดโทษให้ขึ้นนำก่อนก็ตาม แต่ในอีกสองนัดที่เหลืออาร์เจนตินาก็เข้าฟอร์มเอาชนะมาได้ด้วยสกอร์ 2-0 ทั้งสองนัด ทำให้จบรอบแบ่งกลุ่มในฐานะแชมป์กลุ่ม C เข้ารอบ 16 ทีมมาพบกับออสเตรเลีย 1 ใน 3 ทีมจากเอเชียที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีม แต่ก็ต้องหยุดอยู่แค่นี้หลังพ่ายแพ้ให้กับอาร์เจนตินาไป 2-1 และคนที่ถูกยกย่องมากที่สุดคนหนึ่งคือเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 7 สมัย ลิโอเนล เมสซี ที่อายุอานามไม่ใช่น้อยแล้ว แต่ก็ยังสามารถหวังและพึ่งพาได้เสมอสำหรับอาร์เจนตินา ลิโอเนล สคาโลนี กุนซืออาร์เจนตินา จัดทีมในแต่ละนัดแตกต่างกันออกไปเพราะมีผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บบ้าง ต้องการพักผู้เล่นบางคนบ้าง และที่สำคัญ การพลาดแพ้ให้กับซาอุดิอาระเบียก็มีส่วนไม่ใช่น้อย แต่คาดว่ารอบ 8 ทีม ลิโอเนล สคาโลนี จะจัดผู้เล่นในระบบ 4-1-2-3 ผู้รักษาประตู : เอมิเลียโน มาร์ติเนซ กองหลัง : นาฮูเอล โมลินา, คริสเตียน โรเมโร, นิโกลัส โอตาเมนดี และ มาร์กอส อคุนญ่า กองกลาง : เอนโซ เฟร์นานเดซ, โรดริโก เดอ ปอล และ อเล็กซิส แมค อลิสเตอร์ กองหน้า : อังเคล ดิ มาเรีย, ลิโอเนล เมสซี และ จูเลียน อัลวาเรซ
ผลงาน 5 นัดหลังสุดที่พบกัน
10/07/2014 เนเธอร์แลนด์ 0-1 อาร์เจนตินา
22/06/06 เนเธอร์แลนด์ 0-0 อาร์เจนตินา
13/02/03 เนเธอร์แลนด์ 1-0 อาร์เจนตินา
31/3/99 เนเธอร์แลนด์ 1-1 อาร์เจนตินา
04/07/98 เนเธอร์แลนด์ 2-1
ปรีวิว
เนเธอร์แลนด์ของ หลุยส์ ฟาน กัล เล่นได้อย่างเป็นระบบ จังหวะพลาดมีให้เห็นน้อย และมีแนวรับที่แข็งแกร่ง อย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่คอยบัญชาการเกมรับ เดนเซล ดุมฟรีส์ วิงแบ็คที่คว้าแมน ออฟ เดอะ แมตช์จากนัดที่เอาชนะสหรัฐอเมริกามาได้ กับผลงานจ่าย 2 ยิง 1 ทั้งยังได้ เมมฟิส เดปาย สลัดอาการบาดเจ็บลงล่าตาข่ายกับ โคดี กักโป กองหน้าฟอร์มแรงที่สุดคนหนึ่งในทัวร์นาเม้นต์นี้ ถึงแม้ว่าอาร์เจนตินาจะมี ลิโอเนล เมสซี ที่มีประสบการณ์และความเก๋าคอยแบกทีมอยู่ก็ไม่น่าจะต้านทีมเวิร์คของเนเธอร์แลนด์ได้ และจะเป็นอัศวินสีส้มที่ผ่านเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายไปได้