เอริก เทน ฮาก ผจก.ทีม แมนฯ ยูไนเต็ด อยากให้ทุกฝ่ายมองโลกในความเป็นจริงว่าต่อให้เขาฝีมือดีแค่ไหน แต่หากขาดการสนับสนุนเรื่องทุนทรัพย์ปั้นขุมกำลังอย่างที่อยากได้ มันก็เหมือนวาดวิมานบนอากาศเรื่องกลับสู่ความยิ่งใหญ่

ยูไนเต็ด อุตส่าห์ทุ่มทุนสร้างมากสุดประวัติศาสตร์กว่า 220 ล้านปอนด์ช่วงตลาดซัมเมอร์ 2022 ซึ่งเป็นรอบแรกในยุค ‘อีทีเอช’ ภาพรวมทีมค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ

อย่างไรก็ตามบอสวัย 53 กะรัต มองว่าการเข็นสโมสรคืนจุดที่เคยเป็นยุคทองยิ่งกว่าเมกกะ โปรเจคต์ ดังนั้นท่อน้ำเลี้ยงต่อไว้อย่าให้ขาดตอน

“เรากำลังพูดถึงเรื่องวัฒนธรรม, สิ่งที่จะไขว่คว้าและเป้าหมายที่ต้องการ ซึ่งคุณ ริเชิร์ด อาร์โนลด์ (ผู้บริหารระดับสูง) ก็ยืนกรานว่าต่อให้เปลี่ยนเจ้าของสโมสร ยุทธศาสตร์ทีมก็ไม่เปลี่ยน” การเปิดปากผ่านเว็บไซต์ทางการ

“มันจะดีขึ้นด้วยเพราะมีเงินมากพอสำหรับการสร้างโปรเจคต์นี้”

“ข้อมูลที่ผมได้ทราบมามีแต่เรื่องดีๆ เพราะจะมีการลงทุนมากสุดเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งนั่นคือสัญญาณบวก”

“พรีเมียร์ลีก อังกฤษ การแข่งขันสูง ทุกทีมต่างมีศักยภาพทางการเงินทั้งสิ้น – งานหินขึ้นเมื่อขับเคี่ยวกัน 7-8 ทีม”

“สถานการณ์มันเปลี่ยนไปจากเมื่อเปรียบเทียบ 5-10 ปีก่อน มีสโมสรอย่าง นิวคาสเซิ่ล ก้าวขึ้นมา หรือแม้แต่ เวสต์แฮม ซึ่งต่อให้ไม่ได้อยู่กลุ่มบนของตาราง แต่พวกเขาล้วนลงทุนอักโข”

“แน่นอนสุดยังมี สเปอร์ส, แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล – ผมไม่จำเป็นต้องอ้างถึงพวกเขาเพราะรู้ๆกันดี ไหนจะ เชลซี อีก”

“นับคร่าวมีไม่ต่ำกว่า 7-8 สโมสรที่แย่งแชมป์ลีก หรือแม้แต่กลุ่มท้ายตารางผมก็ไม่เห็นว่ามีทีมไหนอ่อนๆ ทั้งลีกแข็งแกร่ง ปราศจากเกมง่าย”

“คิดว่าเงินถึงอย่างเดียวไม่พอ ยุทธศาสตร์ต้องชัดเจน แล้วมันแสดงออกมาเมื่อคุณไม่ได้นักเตะที่เหมาะสม คุณภาพดีเข้ามา คุณไม่มีทางประสบความสำเร็จหรือบรรลุเป้าหมายที่วางไว้”

“แถวนี้มันโหด ดังนั้นผู้เล่นที่คู่ควรคือสิ่งจำเป็น”

ตำแหน่งที่ ยูไนเต็ด มองหาคือกองหน้าแทน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เล็งที่ โคดี กัคโป ของ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น และ ชูเอา เฟลิกซ์ ค่าย แอต.มาดริด