รายการ : ฟุตบอลโลก 2022 ที่ ประเทศกาตาร์ รอบรองชนะเลิศ

แมตช์การแข่งขัน : ฝรั่งเศส VS โมร็อกโก

วันและเวลา : คืนพุธที่ 14 ธันวาคม 2022 เวลา 02:00 น.

สนาม : อัล เบย์ท สเตเดี้ยม ประเทศกาตาร์

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

ฝรั่งเศส

11/12/22 ฟุตบอลโลก ชนะ อังกฤษ 2-1

04/12/22 ฟุตบอลโลก ชนะ โปแลนด์ 3-1

30/11/22 ฟุตบอลโลก แพ้ ตูนิเซีย 0-1

26/11/22 ฟุตบอลโลก ชนะ เดนมาร์ก 2-1

22/11/22 ฟุตบอลโลก ชนะ ออสเตรเลีย 4-1

โมร็อกโก

10/12/22 ฟุตบอลโลก ชนะ โปรตุเกส 1-0

06/12/22 ฟุตบอลโลก เสมอ สเปน 0-0 / ดวลจุดโทษชนะ 3-0

01/12/22 ฟุตบอลโลก ชนะ เบลเยี่ยม 2-0

23/11/22 ฟุตบอลโลก เสมอ โครเอเชีย 0-0

การพบกัน 5 นัดหลังสุด

16/11/07 ฝรั่งเศส 2-2 โมร็อกโก

06/06/00 โมร็อกโก 1-5 ฝรั่งเศส

20/01/99 ฝรั่งเศส 1-0 โมร็อกโก

29/05/98 โมร็อกโก 2-2 ฝรั่งเศส

23/01/96 ฝรั่งเศส 1-0 โมร็อกโก

ผู้เล่นบาดเจ็บ/ติดโทษแบน

ฝรั่งเศส : ลูคัส เอร์นานเดซ

โมร็อกโก : วาลิด เชดดิลา (ติดโทษแบน) / นาอีฟ อเกิร์ด, นูสแซร์ มาซราอุย, ฮาคิม ซิเยค (ทดสอบความฟิต)

ความพร้อมของทั้งสองทีม

ฝรั่งเศส : ดิดิเยร์ เดสชองส์ ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติมนอกจากในรายของ ลูคัส เอร์นานเดซ แบ็คซ้ายจากบาเยิร์น มิวนิคที่บาดเจ็บตั้งแต่นัดแรกที่พบกับออสเตรเลีย และเป็นน้องชาย เตโอ เอร์นานเดซ แบ็คซ้ายจากเอซี มิลานที่ทำผลงานแทนพี่ชายได้อย่างดีเยี่ยม ฝรั่งเศสผ่านเข้าสู่รอบSEMI-FINALSโดยไม่ต้องเล่นถึง 120 นาที นั่นหมายความว่า 11 ตัวผู้เล่นของเดสชองส์อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด แทบจะไม่ต้องปรับตำแหน่งใดเลย โดยเฉพาะแนวรุก อองตวน กรีซมันน์, ออสมานา เดมเบเล, คิเลียน เอ็มบัปเป และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่เล่นเข้าขาประสานงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม

โมร็อกโก : วาลิด เรกรากุย ต้องบอกว่าการเข้ามาของเขาทำให้โมร็อกโกได้ผู้เล่นอย่าง ฮาคิม ซิเยค และ นูสแซร์ มาซราอุย กลับมาติดทีมชาติโมร็อกโกอีกครั้ง พร้อมกับฟอร์มของ โบโน่, ซอฟยาน อัมราบัต และ อัซเซดีน ฮูนาไฮ จากนัดที่พลิกเอาชนะโปรตุเกสมาได้ 1-0 เป็นการย้ำเตือนว่าโมร็อกโกประมาทไม่ได้เด็ดขาด เพราะตอนนี้พวกเขาเป็นชาติจากแอฟริกาชาติแรกที่ผ่านเข้ารอบSEMI-FINALSไม่มีอะไรต้องให้เสียแล้ว

วิเคราะห์ก่อนเกม : ฝรั่งเศส พบ โมร็อกโก

ทั้งสองทีมผ่านเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายได้โดยไม่ต้องเล่นถึง 120 นาที โดยเฉพาะฝรั่งเศสที่สามารถผ่านเข้ามาได้โดยไม่ต้องดวลจุดโทษเลยแม้แต่นัดเดียว สภาพความฟิตของผู้เล่นเหนือกว่าผู้เล่นโมร็อกโกแน่นอน เพราะต้องเล่นถึง 120 นาทีและดวลจุดโทษเอาชนะสเปนมาในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ความเหนื่อยล้า ความเพลีย สะสมกว่าแน่นอนโดยเฉพาะในรายของ โรแม็ง ซาอิสส์ กองหลังกัปตันทีมที่นัดที่แล้วเห็นได้ชัดเลยว่า สภาพร่างกายหนักหนาเอาการจนต้องเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 57 ของเกม ตัวเก่งอย่าง ฮาคิม ซิเยค และ นูสแซร์ มาซราอุย ก็ต้องรอทดสอบความฟิต ลงสนามได้ก็อาจจะไม่เต็ม 100% เจอเกมรุกที่รวดเร็ว และการเข้าทำที่หลากหลายโมร็อกโกต้องพึ่งพาโชคให้รอดไปตัดสินถึงดวลจุดโทษโอกาสเข้ารอบถึงจะเพิ่มขึ้น

สกอร์ที่คาด : ฝรั่งเศส 3-0 โมร็อกโก

ทรรศนะ : ฝรั่งเศสกลับมาเพื่อป้องกันแชมป์ โมร็อกโกไม่อาจต้านทานได้เลย