ซาอุดิ โปร ลีก สร้างความฮือฮาในวงการฟุตบอล
วงการฟุตบอลทั่วโลกกำลังจับตามองการเคลื่อนไหวของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกอย่าง ซาอุดิ อาระเบีย หลังจากเมื่อต้นปีสร้างความฮือฮาด้วยการเซ็นสัญญากับนักเตะระดับโลกอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด ต่อมาช่วงที่หลายๆ ลีกใหญ่ในยุโรปเริ่มทะยอยปิดซีซั่น ก็เป็น คาริม เบนเซมา กองหน้าสตาร์ชาวฝรั่งเศสของ เรอัล มาดริด ที่หมดสัญญาและย้ายไปเล่นใน ซาอุดิ โปร ลีก ไม่เพียงเท่านี้ยังมีสตาร์ดัง อย่าง เอ็นโกโล ก็องเต, คาลิดู คูลิบาลี, เอดู เมนดี, โรแบร์โต ฟีร์มิโน, เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช และ รูเบน เนเวส ต่างพากันตบเท้าก้าวเข้าสู่ดินแดนตะวันออกลางตามๆ กันไป
ทำไมทีมในซาอุดิ โปร ลีก ถึงต้องคว้านักเตะชื่อดัง
เพราะนักนักเตะชื่อดังที่มีอายุ 30 ปลายๆ ที่ประสบความเร็จแล้ว และยังมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์จะไม่ต้องเล่นในเกมระดับใหญ่อย่าง UCL 2023-2024 หรือ EUROPA LEAGUE อีกนัยหนึ่งก็คือมีจำนวนแมตช์ที่น้อยลง และ ความเข้มข้นของการแข่งขันไม่สูงมากนัก แต่ได้รับเงินมากขึ้น ในกรณีของ รูเบน เนเวส กองกลางชาวโปรตุกีส วัย 26 ปี ที่มีข่าวกับ บาร์เซโลนา และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แตกต่างกันออกไป เพราะกองกลางรายนี้ในสมัยค้าแข้งกับวูล์ฟแฮมป์ตันมีรายได้ประมาณ 4 ล้านปอนด์ต่อปี แต่เมื่อเขาย้ายมาร่วมทีม อัล-ฮิลาลจะมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า คือ 12 ล้านปอนด์ต่อปี ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกับกองหลังร่างยักษ์ของ เชลซี คาลิดู คูลิบาลี วัย 32 ปี ที่ย้ายร่วมทีมเดียวกัน ด้วยเหตุผลทางการเงิน
การพัฒนาของซาอุดิ โปร ลีก
อย่างที่เรารู้กันดีว่า ซาอุดิ อาระเบียเป็นประเทศที่มีธุรกิจน้ำมันเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ในวันนี้พวกเขาเริ่มก้าวเข้ามาสนใจธุรกิจด้านกีฬา เห็นได้จากการเทคโอเวอร์สโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่ซีซั่นก่อนทำผลงานได้ดีจนได้ตั๋วไปเล่นใน UCL ในซีซั่นที่กำลังจะถึงนี้ หรือแม้แต่ข่าวความต้องการเทคโอเวอร์ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน
นักวิเคราะห์ของอังกฤษจาก สกาย สปอร์ต มองว่าพวกเขากำลังให้ความสนใจในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ไม่ใช่น้ำมัน เพราะรู้ดีว่าไม่อาจทำธุรกิจน้ำมันไปได้ตลอด โดยการลงทุนผ่านกองทุนใหญ่อย่าง Saudi arabia Public Invesment Fund หรือ PIF โดยพุ่งเป้าไปที่กีฬาฟุตบอลที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แม้แต่ในซาอุดิ อาระเบียก็เช่นกัน พวกเขาต้องการสร้างวงการฟุตบอลในประเทศให้เทียบเท่ากับในประเทศยุโรป ในฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดการพลิกเอาชนะอาร์เจนตินาที่มี ไลโอเนล เมสซี ได้คือการจุดประกายแผนงานครั้งใหญ่นี้ “แทนที่จะให้ชาติอื่นมาเอาเงินจากความสนใจในกีฬาของคนในประเทศ ทำไมไม่ให้เงินนั้นเป็นของเรา และให้มันอยู่ในประเทศของเรา” คติของแผนงานด้านกีฬาฟุตบอลในครั้งนี้
ทีมในซาอุดิ โปร ลีก ใช้เงินไปเท่าไหร่แล้ว?
การย้ายทีมของนักเตะเชลซีในตลาดนักเตะช่วงหน้าร้อนนี้สร้างความงุนงงให้กับวงการไม่น้อย เพราะมีนักเตะ 3 รายของที่ไปเล่นในซาอุดิ โปร ลีก คือ เอ็นโกโล ก็องเต, เอดู เมนดี และ คาลิดู คูลิบาลี โดยในรายของคูลิบาลีเป็นการขายแบบขาดทุนจากตอนที่ซื้อจาก นาโปลี ถึง 15 ล้านยูโรเลยทีเดียว แม้ว่าจะมีการทุ่มเงินไปกับนักเตะดังๆ หลายราย แต่ส่วนใหญ่เป็นการหมดไปกับค่าเหนื่อยของนักเตะมากกว่า WORLDCUPDAILY ได้รวบรวมข้อมูลมูลค่าตลาดรวมของทีมในซาอุดิ โปร ลีก อ้างอิงจาก Transfermarkt มาให้ดูกัน
| ทีม | มูลค่าตลาดรวม |
| อัล-นาสเซอร์ อัล-ชาบับ อัล-ฮิลาล อัล-อิตติฮัด อิตติฟาค อัล-ทาวอน อัล-ฟาเตห์ อัล-ตาอี อัล-เวห์ด้า ดามัค | 61.2 ล้านปอนด์ (2.7 พันล้านบาท) 35.7 ล้านปอนด์ (1.6 พันล้านบาท) 32.2 ล้านปอนด์ (1.4 พันล้านบาท) 24.1 ล้านปอนด์ (1 พันล้านบาท) 22 ล้านปอนด์ (987 ล้านบาท) 18.9 ล้านปอนด์ (848 ล้านบาท) 11.9 ล้านปอนด์ (534 ล้านบาท) 9.91 ล้านปอนด์ (444 ล้านบาท) 9 ล้านปอนด์ (403 ล้านบาท) 8.7 ล้านปอนด์ (309 ล้านบาท) |
