3 ทีมพรีเมียร์ ลีก อังกฤษกับโอกาสคว้าโควต้าเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
อีกเพียงไม่นานกับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก 2022-2023 จะจบลง ไม่เพียงเป็นการขับเคี้ยวกันคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง และ อาร์เซน่อล รองจ่าฝูง เท่านั้นที่การันตีโควต้าเล่น ucl 2023-2024 ยังมีอีก 3 ทีมที่ยังต้องขับเคี้ยวกันเพื่อโควต้ารายการนี้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด อันดับ 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 4 และ ลิเวอร์พูล อันดับ 5 ของตารางที่มีแต้มไล่กันแบบลดต้นคอ กับโปรแกรมการแข่งขันอีกเพียงไม่กี่นัด ก็จะตัดสินว่า 2 ทีมที่จะได้ไปเล่นในบอลยุโรปถ้วยใหญ่เป็นทีมใด
การได้สิทธิ์เข้าไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า
ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก คือรายการแข่งขันของสโมสรในยุโรปที่ใหญ่ที่สุด ได้เริ่มต้นเมื่อปี ค.ศ. 1955 ในชื่อภาษาฝรั่งเศสว่า Coupe des Clubs Champions Européens ( ยูโรเปียนแชมเปียนคลับคัพ ) หรือ ยูโรเปียนคัพ เป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออกระหว่างสโมสรที่เป็นแชมป์ลีกในประเทศของยุโรป เริ่มการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มแบบพบกันหมดในปี ค.ศ.1991 และเปลี่ยนชื่อเป็น EUFA CHAMPION LEAGUE ( ยูฟ่า แชมเปียน ลีก ) ในปี ค.ศ. 1992 จากนั้นเริ่มอนุญาตให้หลายสโมสรจากบางประเทศเข้าร่วมในฤดูกาด 1997-1998 จากนั้นมาก็ได้มีการขยายให้มีสโมสรได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้มากขึ้น โดยพรีเมียร์ ลีก จากอังกฤษได้สิทธิ์เข้าร่วมรายการนี้ 4 ทีมที่อันดับดีที่สุดในตาราง โดยในฤดูกาล 2022-2023 ทีมจากพรีเมียร์ ลีกได้สิทธิ์ไปแล้ว 2 ทีม คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล ทีมจ่าฝูงและรองจ่าฝูง ยังมีอีก 3 ทีม ที่ต้องแย่งชิงสิทธิ์ที่เหลืออยู่อีก 2 สิทธิ์ในฤดูกาลหน้า
Newcastle United / นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
ภายใต้การเข้ามาคุมทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ที่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อ 11 พ.ย. 2021 ผลงานของนิวคาสเซิลที่ขณะนั้นรั้งรองบ๊วยของตารางห่างโซนตกชั้น 5 แต้ม หลังจบซีซั่นก็หนีตกชั้นได้สำเร็จก่อนที่ในฤดูกาล 2022-23 นิวคาเซิลของเขาก็ทำผลงานได้โดดเด่น จนปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 3 มี 65 แต้ม ได้โอกาสลุ้นเล่นใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า โดยยังมีโปรแกรมเตะอีก 4 เกมด้วยกัน ในวันที่ 13 พ.ค. พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด 19 พ.ค. พบ ไบร์ทตัน 23 พ.ค. พบ เลสเตอร์ ซิตี้ และ 28 พ.ค. พบ เชลซี โดยวันเสาร์ที่ 13 พ.ค. เวลา 18:30 น. หากนิวคาสเซิลเอาชนะลีดส์ ยูไนเต็ดได้ ก็จะเป็นการกดดัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปในตัวเพราะหาก ปีศาจแดงพลาดท่าแพ้ จะทำให้โอกาสในการไปเล่นบอลยุโรปถ้วยใหญ่ลดลงไปเช่นกัน
Manchester United / แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก ในซีซั่นแรกสร้างความประทับใจให้กับบรรดาสาวกยูไนเต็ดอยู่ไม่น้อย โดยการคืนความสุขแรกให้แฟนๆ โดยการคว้าถ้วย คาราบาว คัพ หลังเอาชนะนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดได้สำเร็จ ถึงหลายคนจะมองว่าถ้วยใบนี้เป็นถ้วยใบเล็ก แต่คำให้สัมภาษณ์ของ เทน ฮาก ” เราห่างหายบรรยากาศแบบนี้มานาน เราจำเป็นต้องดึงบรรยากาศแบบนี้กลับมาให้สโมสรและแฟนๆ ” ก่อนเกมนัดชิงจะเริ่ม และเขาก็ทำได้สำเร็จ ก่อนจะเอาชนะการดวลจุดโทษ ไบร์ทตัน ผ่านเข้าชิงชนะเลิศรายการ เอฟเอ คัพ กับคู่ปรับร่วมเมือง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และมีลุ้นติดท๊อปโฟร์ ไปเล่น ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในซีซั่นหน้า แต่ ทัพปีศาจแดง ยังคงเหลือโปรแกรมเตะอีก 4 เกมด้วยกัน 13 พ.ค. เปิดบ้านรับ วูล์ฟแฮมป์ตัน 20 พ.ค. พบ บอร์นมัธ 26 พ.ค. พบ เชลซี 28 พ.ค. พบ ฟูแล่ม โดยเป็นเกมเล่นในบ้านถึง 3 เกม คือนัดที่พบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน, เชลซี และ ฟูแล่ม หากดูจากสถิติ แมนฯ ยูไนเต็ด มีเกมในบ้านที่ค่อนข้างดี เล่นในบ้าน 16 นัด ชนะ 12 เสมอ 3 แพ้ 1 ได้ 28 เสีย 8 น้อยที่สุดในลีก การผ่านเข้าไปเล่นบอลถ้วยยุโรปรายการใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ดต้องเก็บได้อย่างต่ำ 9 แต้ม จาก 4 เกมที่เหลือ การันตีแน่นอน
Liverpool / ลิเวอร์พูล
คงต้องบอกว่าปีนี้เป็นปีที่ไม่ค่อยดีนักสำหรับ หงส์แดง หลังต้องเสีย ซาดิโอ มาเน ไปแม้จะได้ตัวทั้ง ดาร์วิน นูเญซ มาช่วงซัมเมอร์ และ โคดี กัคโป ในช่วงตลาดหน้าหนาว แต่กว่าที่ทั้งคู่จะโชว์ฟอร์มได้น่าตื่นตาตื่นใจก็ใช้เวลานานพอสมควร แต่ก็เป็นช่วงที่น่าจดจำ เพราะเป็นแมตช์ที่เปิด แอนฟิลด์ ถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ดไปถึง 7-0 โดยที่ทั้งคู่เหมาไปคนละ 2 โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ อีก 2 และปิดท้ายด้วย โรแบร์โต ฟีร์มิโน แต่นัดต่อมากลับพ่ายให้กับบอร์นมัธ 1-0 ก่อนจะตกรอบ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก หมดลุ้นทุกแชมป์ แต่ช่วงท้ายซีซั่นยังเร่งเก็บ 3 แต้มจนขยับอันดับขึ้นมาหายใจลดต้นคอ แมนฯ ยูไนเต็ดที่อับดับ 5 มี 62 แต้ม กับอีก 3 เกมที่เหลือ 16 พ.ค. ออกไปเยือน คิง พาวเวอร์ สเตเดียม ของ เลสเตอร์ ซิตี้ 20 พ.ค. พบ แอสตัน วิลล่า และปิดท้าย 28 พ.ค. พบ เซาแธมป์ตัน บ๊วยของตารางที่มีโอกาสตกชั้นสูง เงื่อนไขที่ลิเวอร์พูลจะสามารถได้สิทธิ์ไปเล่น UCL ในซีซั่นหน้าคือ ต้องชนะทุกนัด แล้วลุ้นให้แมนฯ ยูไนเต็ดเก็บแต้มได้น้อยกว่า 9 แต้ม
ด้าน SKY BET บริษัทรับพนันถูกกฎหมายที่อังกฤษให้ภาษีด้านนิวคาสเซิลมีโอกาสได้ตั๋วใบที่สามมากกว่าทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ทำให้การแย่งชิงตั๋วใบสุดท้ายเป็นการขับเคี้ยวกันระหว่างสองทีมคู่ปรับตลอดกาล ปีศาจแดง และ หงส์แดง
