ในช่วงเวลานี้เมื่อ 8 ปีก่อน เด็กหนุ่มนอร์เวย์จากสโมสร สตรอมกอตเสด ในบ้านเกิด กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั้งโลกฟุตบอล หลังจากวนทดสอบความสามารถด้านฟุตบอลของตนเองมาหลายสโมสร มาร์ติน เออเดการ์ด ตัดสินใจเลือก เรอัล มาดริด ที่ว่ากันว่า นอกจากโปรไฟล์ที่ยิ่งใหญ่ของสโมสรแล้ว ค่าเหนื่อยที่เรอัล มาดริด มอบให้ก็สูงมากเช่นกัน สำหรับนักเตะวัย 16 ปี รวมถึงการเสนองานโค้ชให้กับคุณพ่อของนักเตะ ผู้ซึ่งเป็นโค้ชคนแรกของลูกชายตนเอง
ดีลมูลค่าประมาณ 4 ล้านยูโร ที่เกิดขึ้นในเดือนมกราคมปี 2015 เป็นดีลใหญ่ของสโมสรจากนอร์เวย์ และเป็นดีลใจกล้า และท้าทายนักเตะเป็นอย่างมาก เมื่อในทีมที่เขาเลือกมียอดนักเตะขวางหน้าอยู่มากมาย แต่ก็เลือกที่จะไปพิสูจน์ตนเองว่าดีพอหรือไม่ สุดท้ายแล้วต้องเรียกว่า “ดีพอ แต่ไม่มากพอ” เออเดการ์ด ไม่ได้รับโอกาสในการลงสนามมากอย่างที่เขาหวัง และไม่ได้รับการผลักดัน และสนับสนุนในการขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในยุคของ ซีเนอดีน ซีดาน ภาพของการเป็นวันเดอร์คิดของเขายังคงติดอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน และไม่พร้อมกับเรอัล มาดริด ซึ่งสวนทางกับ เรอัล มาดริด ที่ว่าพวกเขามองเห็นถึงศักยภาพผู้เล่น แต่ไม่พร้อมสำหรับการผลักดัน เมื่อคนข้างหน้าของเขา ยังมีคนที่มีศักยภาพใกล้เคียงกัน ประสบการณ์มากกว่า และเข้ากับทีมได้แล้ว ตลอดช่วงเวลาของ เออเดการ์ด ที่เรอัล มาดริด เขาถูกระบุว่าลงเล่นในทีมชุดใหญ่ 11 เกมในทุกรายการ และเส้นทางของเขาคือการออกเดินทางไปเล่นแบบยืมตัวถึง 4 สโมสร รวมถึง อาร์เซนอล ต้นสังกัดปัจจุบันของผู้เล่น
หากคุณแค่ 16-17 ปี การอยู่กับ เรอัล มาดริด ชุดใหญ่คงเป็นเรื่องในฝันที่สวยงาม แต่หากคุณอายุสัก 22-23 ปี การสวมเสื้อเรอัล มาดริด แล้วบอกว่าตัวเองเป็นนักเตะ เรอัล มาดริด มันคงไม่ได้น่าดีใจเท่าวันวาน หากคุณคือคนที่ต้องนั่งอยู่ข้างสนามดูเพื่อนเล่น ในหลายเกมคุณคือผู้ชมที่หลุดทีมกระทั่งตัวสำรอง แน่นอนบางคนอาจมีความสุขแบบนั้น แต่ไม่ใช่สำหรับเออเดการ์ด เขายังเด็กเกินไปที่จะพอใจกับเรื่องนี้ และการย้ายทีมจึงต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้